ICSC 1183 - 2-เมอร์แคปโตเบนโซไทอะโซล

« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น

2-เมอร์แคปโตเบนโซไทอะโซล	ICSC: 1183 (เมษายน 2017)

เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 149-30-4

UN #: 3077

EC Number: 205-736-8

	อันตรายเฉียบพลัน	การป้องกัน	การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด	การเผาไหม้ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้ อนุภาคเล็กมากหรือละเอียดที่ถูกปล่อยออกมาจะมาผสมกับอากาศและทำให้ระเบิดได้	ห้ามใกล้เปลวไฟ ป้องกันฝุ่นแพร่กระจาย ทำให้เป็นระบบปิด ให้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันระเบิด	ใช้ water spray, ผงเคมี, foam, carbon dioxide.

หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้!
	อาการแสดง	การป้องกัน	การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ		ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ	อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน
ทางผิวหนัง		ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน	ให้สวมถุงมือเพื่อป้องกันมือขณะทำการปฐมพยาบาล ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่
ทางตา	รอยแดง	สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย	ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์
ทางปาก		ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน	บ้วนปาก

การกำจัดทิ้ง	การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : หน้ากากป้องกันใบหน้า (face shield) และ ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอนุภาค (filter) สำหรับป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิดและผนึกแน่น ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation)	ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria) อันตราย อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง เป็นพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำโดยมีผลกระทบเป็นระยะเวลานาน การขนส่ง UN Classification UN Hazard Class: 9; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III
การเก็บ
เก็บรักษาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม แยกจาก acids และ oxidizing materials เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง
การบรรจุ/การหีบห่อ

2-เมอร์แคปโตเบนโซไทอะโซล

ICSC: 1183

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี
สถานะทางกายภาพของสาร มีลักษณะทางกายภาพเป็นผลึกที่มีกลิ่นเฉพาะ อันตรายทางกายภาพ ฝุ่นละอองอาจระเบิดได้ถ้าอยู่ในรูปของผงหรือเป็นเม็ดเล็กๆในอากาศ อันตรายทางเคมี สารนี้จะย่อยสลาย หากได้รับความร้อนหรือเผาไหม้สารนี้ สารนี้จะผลิตแก๊สพิษและมีฤทธิ์กัดกร่อน รวมทั้ง สารคาร์บอนออกไซด์ สารไนโตรเจนออกไซด์ and สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ กรด และ สารออกซิไดซ์ สารนี้จะผลิตแก๊สพิษและมีฤทธิ์กัดกร่อน รวมทั้ง สารคาร์บอนออกไซด์ สารไนโตรเจนออกไซด์ สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ and สารไฮโดรเจนซัลไฟด์	C₇H₅NS₂ / C₆H₄SNCSHสูตรโมเลกุล มวลโมเลกุล: 167.3 จุดหลอมเหลว : 180-182°C ความหนาแน่น: 1.42 g/cm³ ละลายในน้ำ (ได้น้อยมาก) ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.01กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml) ขุดวาบไฟ : 243°C อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 628°C ขีดจำกัดการระเบิด : 15-?vol% ในอากาศ ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 2.41

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นผลึกที่มีกลิ่นเฉพาะ

อันตรายทางกายภาพ
ฝุ่นละอองอาจระเบิดได้ถ้าอยู่ในรูปของผงหรือเป็นเม็ดเล็กๆในอากาศ

อันตรายทางเคมี
สารนี้จะย่อยสลาย หากได้รับความร้อนหรือเผาไหม้สารนี้ สารนี้จะผลิตแก๊สพิษและมีฤทธิ์กัดกร่อน รวมทั้ง สารคาร์บอนออกไซด์ สารไนโตรเจนออกไซด์ and สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ กรด และ สารออกซิไดซ์ สารนี้จะผลิตแก๊สพิษและมีฤทธิ์กัดกร่อน รวมทั้ง สารคาร์บอนออกไซด์ สารไนโตรเจนออกไซด์ สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ and สารไฮโดรเจนซัลไฟด์

C₇H₅NS₂ / C₆H₄SNCSHสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 167.3
จุดหลอมเหลว : 180-182°C
ความหนาแน่น: 1.42 g/cm³
ละลายในน้ำ (ได้น้อยมาก) ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.01กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ขุดวาบไฟ : 243°C
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 628°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 15-?vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 2.41

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ
ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาอนุภาคของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น สาร อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ตา	ความเสี่ยงต่อการหายใจ ไม่มีข้อบ่งชี้อัตราความเข้มข้นที่เป็นอันตรายของสารนี้ในอากาศ ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม สารนี้อาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ได้

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาอนุภาคของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สาร อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ตา

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ไม่มีข้อบ่งชี้อัตราความเข้มข้นที่เป็นอันตรายของสารนี้ในอากาศ

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม สารนี้อาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ได้

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
MAK: (inhalable fraction): 4 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³); การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 3B; ภูมิไวเกินของผิวหนัง (SH); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อม ต้องไม่แพร่สารนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม

ข้อสังเกต
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน การแยกเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนโดยการปิดถุงหรือวัสดุอื่น ผู้ใดมีอาการแพ้ต่อผิวหนัง (skin sensitization) จากสารนี้ควรหลีกเลี่ยงการได้รับสัมผัสสารนี้

ข้อสังเกต

ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน
การแยกเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนโดยการปิดถุงหรือวัสดุอื่น
ผู้ใดมีอาการแพ้ต่อผิวหนัง (skin sensitization) จากสารนี้ควรหลีกเลี่ยงการได้รับสัมผัสสารนี้

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม

EC Classification
สัญลักษณ์ : Xi, N; R: 43-50/53; S: (2)-24-37-60-61

(th)	ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล