ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I 

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ ลักษณะทางกายภาพจะเปลี่ยนเป็น สีน้ำตาล เมื่อสัมผัสกับ แสงสว่าง และ ความชื้น 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจสะสมในพื้นที่ว่างด้านล่างทำให้พื้นที่นั้นไม่มีออกซิเจน 

อันตรายทางเคมี
สารนี้จะสลายตัวที่ระดับอุณหภูมิสูงกว่า 270 องศาเซลเซียส (°C) จะเกิดสารไฮโดรเจนไอโอไดด์ สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิด สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิเจนที่อุณหภูมิ 300 องศาเซลเซียส (°C) สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิด 

CH₃Iสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 142.0
จุดเดือด : 42.5 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -66.5°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 2.3
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: 1.4กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 50 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 4.9
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 2.7
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 1.51
ความหนืด : 0.18 อัตราส่วนของความหนาแน่นของความหนืด ตารางมิลลิเมตรต่อวินาที (mm²/s) ที่อุณหภูมิ 40°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 8.5 - 66%vol% ในอากาศ
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 355°C  

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า ควรให้แพทย์ตรวจอาการ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การทดสอบสารนี้ในสัตว์ทดลองแล้วพบว่ามีเนื้องอกนั้นอาจไม่มีผลต่อมนุษย์เหมือนในสัตว์ทดลอง