ICSC 0004 - เมทิลไอโซไซยาเนต

« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น

เมทิลไอโซไซยาเนต	ICSC: 0004 (พฤศจิกายน 2003)
เมทิลไอโซไซยาเนต ไอโซไซยานาโตมีเทน ไอโซไซยานิกแอซิด, เมทิลเอสเทอร์ หรือ กรดไอโซไซยานิก, เมทิลเอสเทอร์

เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 624-83-9

UN #: 2480

EC Number: 210-866-3

	อันตรายเฉียบพลัน	การป้องกัน	การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด	ไวไฟสูงสุด การเกิดปฏิกิริยาอย่างมากอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิดได้ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้ ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด	ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ ห้ามสัมผัสกับน้ำ กรด เบส สารออกซิไดซ์ ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย	ใช้ alcohol-resistant foam, dry sand, powder, carbon dioxide. ไม่ใช้ ไฮดรัสเอเจ้นท์ ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น ไม่ใช้น้ำดับไฟโดยตรง การดับไฟจากที่กําบัง

หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์
	อาการแสดง	การป้องกัน	การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ	ไอ หายใจลำบาก หายใจสั้น เจ็บคอ อาเจียน	ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ	อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์
ทางผิวหนัง	อาจถูกดูดซึม ผื่นแดง เจ็บปวด รู้สึกปวดแสบปวดร้อน	ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน	ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา
ทางตา	ความเจ็บปวด รอยแดง สูญเสียการมองเห็น	สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน	ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์
ทางปาก	ปวดท้อง มึนงง ช็อกหรือแฟบ	ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร	บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ส่งต่อไปพบแพทย์

การกำจัดทิ้ง	การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมีซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) การระบายอากาศ (Ventilation) เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นหรือเท่าที่จะทำได้ ให้ตระหนักถึงการทำให้ของเหลวที่หกรั่วไหลเป็นกลางด้วยโซดาไฟ (caustic soda) ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายแห้งหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation)	ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria) การขนส่ง UN Classification UN Hazard Class: 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I
การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) อยู่ในที่เย็น เก็บในที่แห้ง เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ
การบรรจุ/การหีบห่อ
วัสดุพิเศษ

เมทิลไอโซไซยาเนต

ICSC: 0004

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี
สถานะทางกายภาพของสาร มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวระเหย ไม่มีสี มีกลิ่นฉุน อันตรายทางกายภาพ ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ ส่วนผสมระหว่างไอระเหยกับอากาศอาจอยู่ในรูปที่ระเบิดได้ง่าย อันตรายทางเคมี สารนี้เกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรไซชัน เมื่อบริสุทธิ์ สารนี้อาจจะเกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรเซชัน หากถูกทำให้ร้อนภายใต้สภาวะที่มีโลหะและสารเร่งปฏิกิริยา (catalysts) สลายตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำ สลายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับกรด หรือ เบส สารนี้จะสร้างแก๊สพิษ ของ สารไฮโดรเจนไซยาไนด์, สารไนโตรเจนออกไซด์ และ สารคาร์บอนมอนอกไซด์ ทำลาย บางรูปของพลาสติก, ยาง และ การเคลือบ	CH₃NCOสูตรโมเลกุล มวลโมเลกุล: 57.1 จุดเดือด : 39 องศาเซลเซียส จุดหลอมเหลว : -80°C ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.96 ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: ปฏิกิริยา ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 54 กิโลปาสกาล (kPa) ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2 ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.44 จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -7°C c.c. อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 535°C ขีดจำกัดการระเบิด : 5.3-26vol% ในอากาศ

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวระเหย ไม่มีสี มีกลิ่นฉุน

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ ส่วนผสมระหว่างไอระเหยกับอากาศอาจอยู่ในรูปที่ระเบิดได้ง่าย

อันตรายทางเคมี
สารนี้เกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรไซชัน เมื่อบริสุทธิ์ สารนี้อาจจะเกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรเซชัน หากถูกทำให้ร้อนภายใต้สภาวะที่มีโลหะและสารเร่งปฏิกิริยา (catalysts) สลายตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำ สลายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับกรด หรือ เบส สารนี้จะสร้างแก๊สพิษ ของ สารไฮโดรเจนไซยาไนด์, สารไนโตรเจนออกไซด์ และ สารคาร์บอนมอนอกไซด์ ทำลาย บางรูปของพลาสติก, ยาง และ การเคลือบ

CH₃NCOสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 57.1
จุดเดือด : 39 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -80°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.96
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: ปฏิกิริยา
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 54 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.44
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -7°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 535°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 5.3-26vol% ในอากาศ

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ
ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น สารนี้ ทำให้ระคายเคือง รุนแรง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ หากรับประทานจะเกิดการกัดกร่อนทางเดินอาหาร หากหายใจได้รับ ไอระเหย อาจทำให้เกิดภาวะปอดบวมน้ำ (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) การได้รับสารนี้ทางการหายใจ อาจทำให้ มีอาการคล้ายหอบหืด. การได้รับสัมผัสสารนี้ สามารถทำให้เสียชีวิต. ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า ควรให้แพทย์ตรวจอาการ	ความเสี่ยงต่อการหายใจ ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบทางเดินหายใจ อาจมีพิษต่อระบบสืบพันธุ์หรือพัฒนาการของมนุษย์

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง รุนแรง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ หากรับประทานจะเกิดการกัดกร่อนทางเดินอาหาร หากหายใจได้รับ ไอระเหย อาจทำให้เกิดภาวะปอดบวมน้ำ (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) การได้รับสารนี้ทางการหายใจ อาจทำให้ มีอาการคล้ายหอบหืด. การได้รับสัมผัสสารนี้ สามารถทำให้เสียชีวิต. ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า ควรให้แพทย์ตรวจอาการ

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบทางเดินหายใจ อาจมีพิษต่อระบบสืบพันธุ์หรือพัฒนาการของมนุษย์

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.02 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 0.06 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); (ผิวหนัง); (สารกระตุ้นให้ภูมิไวเกิน (SEN)). MAK: 0.024 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³), 0.01 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): I(1); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): D. EU-OEL: 0.02 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณี STEL

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)

TLV: 0.02 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 0.06 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); (ผิวหนัง); (สารกระตุ้นให้ภูมิไวเกิน (SEN)).
MAK: 0.024 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³), 0.01 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): I(1); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): D.
EU-OEL: 0.02 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณี STEL

สิ่งแวดล้อม
aquatic organismsสารนี้อาจเป็นอัตรายต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งที่ควรให้ความสนใจแสดงไว้ใน

ข้อสังเกต
น้ำอาจเกิดปฏิกิริยารุนแรง หากใช้สารดังต่อไปนี้สารดับเพลิง ได้แก่ ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด อาการปอดบวมจะยังไม่แสดงชัดเจนกว่าเวลาผ่านไปสองชั่วโมงภายหลังการได้รับการบาดเจ็บ ดังนั้นการให้พักผ่อนและมีการสังเกตอาการทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็น ผู้ที่มีอาการหอบหืดจากสารนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้ มักไม่มีอาการหอบหืดปรากฏชัดเจนจนกว่าระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมงผ่านไป และอาการหอบหืดจะกำเริบขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง จึงจำเป็นต้องมีการพักและมีการสังเกตทางการแพทย์ การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์ ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน

ข้อสังเกต

น้ำอาจเกิดปฏิกิริยารุนแรง หากใช้สารดังต่อไปนี้สารดับเพลิง ได้แก่
ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด
อาการปอดบวมจะยังไม่แสดงชัดเจนกว่าเวลาผ่านไปสองชั่วโมงภายหลังการได้รับการบาดเจ็บ ดังนั้นการให้พักผ่อนและมีการสังเกตอาการทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ผู้ที่มีอาการหอบหืดจากสารนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้
มักไม่มีอาการหอบหืดปรากฏชัดเจนจนกว่าระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมงผ่านไป และอาการหอบหืดจะกำเริบขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง จึงจำเป็นต้องมีการพักและมีการสังเกตทางการแพทย์
การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม

EC Classification
สัญลักษณ์ : F+, T+; R: 12-24/25-26-37/38-41-42/43-63; S: (1/2)-26-27/28-36/37/39 -45-63

(th)	ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล